วันพุธที่ 1 กันยายน พ.ศ. 2553

กระดังงา

กระดังงา หรือกระดังงาไทย
(ชื่อวิทยาศาสตร์ : Cananga odorata (Lamk.) Hook.f. et Th.)
ชื่ออื่น สะบันงา สะบันงาต้น (ภาคเหนือ)

เป็นไม้ยืนต้นในตระกูลเดียวกับน้อยหน่าและการเวก สูง 8-15 เมตร ลำต้นตรง กิ่งมักจะลู่ลง

ใบเดี่ยว เรียงสลับ รูปวงรีหรือรูปใบหอก กว้าง 5-7 ซม. ยาว 13-20 ซม. ขอบใบเป็นคลื่น เปลือกต้นเกลี้ยงสีเทา ดอกช่อออกเป็นกระจุก ที่ซอกใบ กระจุกละ 4-6 ดอก กลีบดอกสีเหลืองหรือเหลืองอมเขียว มีกลิ่นหอม ผลเป็นกลุ่มผล ผลแก่จะเปลี่ยนจากสีเหลืองอมเขียวเป็นสีดำสรรพคุณและส่วนที่นำมาใช้เป็นยา ดอกนำมาลนไฟใช้อบขนมให้มีกลิ่นหอม

ลักษณะทั่วไป
เป็นพรรณไม้ยืนต้นขนาดกลางและใหญ่ลักษณะการแตกกิ่งก้านลู่ลงข้างล่างบางชนิดก็มีลักษณะเป็นเถาเลื้อยลำต้นสูงประมาณ


15 - 25 เมตรเปลือกลำต้นมีสีน้ำตาลและสีเาโคนต้นมีปุ่มอยู่เล็กน้อยแตกกิ่งสาขามากมุ่มแน่นใบเป็นใบเดี่ยวออกสบับกันตาม

กิ่งก้าน ลักษณะใบยาวประมาณ 12-15 เซนติเมตร กว้างประมาณ 4-6 เซนติเมตรปลายใบแหลมโคนใบมนสอบแหลมขอบใบ

เรียบ สีเขียว ดอกจะออกเป็นช่อ ตามปลายกิ่งหรือโคนใบมีสีเหลือง กลิ่นหอมแรงดอกหนึ่งจะมี 6 กลีบ ดอกจะแบ่งเป็น2 ชั้นมีชั้น

ละ 3 กลีบ ลักษณะของดอกเรียวยาว ม้วนบิดไปมา ขนาดดอกยาวประมาณ 3-5 นิ้ว ตรงกลางดอกมีจุดเล็ก ๆ สีขาว
การเป็นมงคล
คนไทยโบราณเชื่อว่า บ้านใดปลูกต้นกระดังไว้ประจำบ้านจะทำให้มีชื่อเสียงโด่งดัง เพราะ กระดัง คือการทำให้เกิดเสียงดังไปไกล นอกจากนี้ยังเชื่ออีกว่า เสียงดังเหมือนกับนกการะเวกในสมัยพุทธกาล คือมีเสียงดังไพเราะมาก ก้องไกลทั่วสวรรค์ ดังนั้นบางคนจึงเรียกกระดังงาว่า การะเวก

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น